วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

::: My Favourite Stuff : The Tales of Beedle the Bard :::

::: Introduction ^^ :::



คราวนี้ก็เป็นหัวข้อพิเศษของการทำ Blog ... นั่นก็คือ " My Favourite Stuff " นั่นเอง คราวนี้เราก็เรื่องที่น่าสนใจมากๆื คือเรื่อง " The Tales of Beedle the Bard " หรือแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ ว่า "บีเดิลยอดกวี" (มันง่ายตรงไหนใช่ไหมคับ ดูเหมือนจะต้องแปลไทยเป็นไทยอีก 555+ ^^ ) ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ก็คือ J.K.Rowling หรือนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนสุดมหัศจรรย์ชุด Harry Potter นั่นเอง ^^ แล้วเขาก็มี Official Site ของเขาโดยเฉพาะเลยนะคับ http://www.jkrowling.com/ ใครสนใจเกี่ยวกับผู้เขียนคนนี้ สามารถเข้าไปติดตามได้เป็นพิเศษ แต่ว่าเว็บไซต์นี้จะเกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ซะเป็นส่วนใหญ่ หรือใครที่อยากจะอ่านหนังสือเล่มนี้ก็สามารถหาซื้อหาอ่านได้ตามศูนย์หนังสือชั้นนำ แต่เราเป็นเด็กจุฬาฯ เพราะฉะนั้นเราต้องซื้อที่...ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์นั่นเอง อิอิ ^^




แต่ว่าเรื่องที่เราจะนำมาเป็น My Favourie Stuff วันนี้ไม่ใช่ Beedle the Bard ทั้งหมด แต่เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้...หลายคนคงพอเดาออกกันแล้ว(หรือเดาไม่ออกนะ ^^) Deathly Hallows หรือ เครื่องรางยมทูตนั่นเอง

::: The Tales of Beedle the Bard : Deathly Hallows ^^ :::



The Tales of Beedle the Bard เป็นนิทานที่ผู้คนในโลกของเวทมนตร์รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นนิทานที่ผู้ใหญ่เล่าให้เด็กฟังก่อนนอน ต่อมานิทานเรื่องนี้ถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของสามพี่น้องตระกูล Peverell นิทานเรื่องนี้จึงเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้วิเศษในโลกแห่งเวทมนตร์อย่างมาก ซึ่งบางคนถึงขั้นกล่าวว่า ถ้าใครได้ครอบครองเครื่องรางยมทูตทั้งสามอย่างได้ จะได้เป็น " นายแห่งยมทูต " หรือ " นายแห่งความตาย "

จุดเริ่มต้นของตำนานเริ่มจาก มีพี่น้องอยู่สามคนต้องการจะข้ามทะเลคลั่ง ไม่มีใครสามารถข้ามผ่านไปได้ แต่ด้วยความฉลาดของทั้งสามพี่น้องก็ได้ร่วมมือกันเสกสะพานขึ้นมาเพื่อข้ามผ่านทะเลนั้นไป เมื่อไปถึงอีกฝั่นก็พบกับยมทูต ยมทูตกล่าวว่า ทะเลนี้ไม่เคยมีใครผู้ใดข้ามได้มาก่อน พวกเขาเป็นพวกแรกที่สามารถข้ามมาได้ ยมทูตจึงให้พร 3 ประการแก่ทั้งสามพี่น้อง ด้วยความที่พี่คนโตหลงใหลในอำนาจและความแข็งแกร่ง จึงบอกกับยมทูตว่า " ข้าต้องการอาวุธที่จะทำให้ข้าเก่งกาจและไม่มีใครเอาชนะข้าได้ " ยมทูตจึงหักกิ่งไม้จากแถวๆ นั้นมากิ่งหนึ่ง เหลาให้เรียวงาม แล้วก็มอบให้แก่พี่ชายคนดนโตสุด นั่นก็คือ " Elder Wand " (บางคนเรียกว่า " ไม้แห่งความตาย " หรือ " ไม้แห่งโชคชะตา") นั่นเอง ต่อมายมทูตก็หัมมาที่ชายคนที่สอง แล้วถามกับพี่คนรองว่าเจ้าต้องการสิ่งใด พี่ชายคนรองต้องการเจอกับหญิงที่ตนเองรักที่ได้ตายจากไปแล้ว จึงบอกกับยมทูตว่า " ปรารถนาที่จะได้อะไรก็ตามที่จะทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง " ยมทูตจึงเรียกก้อนหินสีดำมา แล้วมอบให้แก่พี่ชายคนรอง " Resurrection Stone " หรือ " หินชุบวิญญาณ " นั่นเอง สุดท้ายยมทูตก็หันไปหาน้องคนสุดท้องและกล่าวคำถามเดิมเป็นครั้งที่สาม ด้วยความฉลาดของชายคนที่สามที่ไม่ไว้ใจยมทูต จึงตอบกลับไปว่า " ขอสิ่งใดก็ได้ที่ทำให้ออกไปจากที่นั่นโดยที่ยมทูตติดตามไปไม่ได้ " ยมทูตจึงมอบเสื้อคลุมของตนเองไปด้วยความไม่เต็มใจ นั่นก็คือ " Cloak of Invisibility " หรือ " ผ้าคลุมล่องหน " นั่นเอง

::: Elder Wand ^^ :::



หลังจากนั้นทั้งสามคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ว่ามันไม่ปกติอีกแล้ว จากการพิสูจน์นิทานเรื่องนี้ข้างต้น ทำให้รู้ว่า พี่ชายตนโต Antioch Peverell ผู้ครองครอง Elder wand เขาได้ไปท้าประลองเวทย์กับผู้คนที่เขาต้องการประลองด้วยมาตลอด และด้วยอำนาจของไม้กายสิทธิ์วิเศษนั่นเองที่ทำให้เขาสามารถชนะได้ทุกคน แต่ด้วยความทะนงตัวอันไม่หยุดยั้ง ทำให้เขาถูกฆ่าในคืนหนึ่งขณะที่เขากำลังนอนอยู่ในบ้านของตนเอง และหลังจากนั้น ฆาตกรรมนองเลือดก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนที่ต้องการไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์จึงฆ่าผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน และไม้กายสิทธิ์วิเศษนั้นก็ยังคงอยู่มาจึงถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้ครอบครองคนปัจจุบันคือ Harry Potter


::: Resurrection Stone ^^ :::

พี่ชายคนที่สอง Cadmus Peverell ผู้ครอบครองหินชุบวิญญาณ ต้องการเจอกับหญิงที่ตนเองรักมาก จึงได้ใช้อำนาจของหินวิเศษนี้เรียกวิญญาณของเธอกลับขึ้นมาจากความตาย แต่สิ่งที่หวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างกันเสียเหลือเกิน เมื่อเขาถูกหญิงที่รักด่าทออย่างโหดร้ายว่าจะเรียกกลับมาจากการเสวยสุขหลังความตายทำไม ด้วยความเสียใจอย่างรุนแรง ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อไปอยู่กับหญิงที่ตนรัก หินวิเศษนั้นก็ตกทอดมาถึง Marvolo Gaunt เขาจึงนำมาทำเป็นแหวนประจำตระกูล Gaunt แล้วแหวนนั้นก็ส่งต่อกันเรื่อยมาจนกระทั่ง Lord Voldemort นำไปทำเป็น Horcrux (คือสิ่งที่เจ้าของแบ่งวิญญาณลงไปเพื่อให้สามารถฟื้นคืนชีพได้ถ้าเกิดตาย) เจ้านายคนสุดท้ายของมันเท่าที่ประวัติศาสตร์เวทมนตร์สามารถหาหลักฐานได้ก็คือ Harry Potter ซึ่งกำลังตามหา Horcrux เพื่อหยุดยั้งการกลับมาของเจ้าแห่งศาสตร์มืดโวลเดอร์มอร์ เมื่อเขาทำลายวิญญาณที่อยู่ในนั้นได้แล้ว แต่เขาไม่ต้องการมัน เขาจึงโยนมันทิ้งไปในส่วนใดส่วนหนึ่งของ Hogwarts

::: Cloak of Invisibility ^^ :::


เครื่องรางยมทูตอย่างสุดท้าย Cloak of Invisibility หรือ ผ้าคลุมล่องหน ซึ่งน้องคนสุดท้อง Ignotus Peverell เป็นผู้ครองครอง เป็นของวิเศษอย่างเดียวในสามอย่างที่ไม่มีวันเสื่อมสภาพ เพราะมันไม่ได้ถูกเสกขึ้นมาเหมือนสองอย่างแรกและมันก็ไม่ได้ถูกถูกอาบด้วยคาถาพรางตา หรือ เสกคำแช่งลานตา หรือ ทอจากขนเดมิไกส์ที่ทำให้ล่องหนได้ หรืออะไรทำนองนั้น เขาอยู่อย่างมีความสุขและเสียชีวิตไปด้วยโรคชราและคุยกับยมทูตอย่างคนคุ้นเคย ผ้าคลุมล่องหนถูกส่งต่อไปยังตระกูล Potter จนก่อนวันที่ Lilly & James Potter จะถูกเจ้าแห่งศาสตร์มืดสังหาร ดัมเบิลดอร์ได้ขอยืมผ้าคลุมล่องหนไปตรวจสอบ หลังจากนั้น เมื่อแฮร์รี่เรียนปี 1 ที่ Hogwarts ดัมเบิลดอร์ก็ได้ส่งผ้าคลุมล่องหนคืนแก่แฮร์รี่

::: Synopsis ^^ :::


สัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูต คือ รูปสามเหลี่ยม มีเส้นตรงทับวงกลม ซึ่งทั้งสามสัญลักษณ์สามารถตีความหมายออกมาได้ นั่นคือ สัญลักษณ์สามเหลี่ยมแทน " Cloak of Invisibility " สัญลักษณ์วงกลมแทน " Resurrection Stone " สัญลักษณ์ขีดตรงกลาง " Elder Wand " ด้วยความเข้าใจผิดของสัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูต ใครต่อใครหลายคนต่างพากันคิดว่า เป็นสัญลักษณ์ของพ่อมดศาสตร์มืดผู้เคยโด่งดัง ในนามกรินเดลวัลด์ แท้ที่จริงแล้วเขาคือหนึ่งในผู้เชื่อในนิทานสามพี่น้อง นิทานของบีเดิลยอดกวี และออกติดตามมัน

...สาเหตุที่เราเลือกเรื่องนี้มีอยู่หลายเหตุผลเหมือนกัน ประการแรกคือ ครั้งนี้เป็นหัวข้อ My Favourtie Stuff เราก็ต้องเลือกเรื่องที่เราชอบมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ประการที่สอง คือ เรื่องนี้เป็นหัวข้อที่สะท้อนภาพสังคมไทยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า " คนที่โลภและหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป(อันนี้มองในด้านที่ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่มากเกินไป เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่เหมาะสม เช่น หลงใหลในอำนาจยศศักดิ์มากเกินไป) ความหายนะก็จะมาเยือนแก่ตนเอง แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะยอมรับและรอบคอบที่จะปกป้องตนเอง ก็จะทำให้เราสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข " ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีความคิดเห็นที่ต่างออกไป สามารถแสดงได้อย่างเสรีเลยนะคับ เพราะ Blog นี้คือโลกแห่งเวทมนตร์(คงคิดว่าเกี่ยวกันไหมใช่ไหมคับ 555+) ^^
P.S. Beedle the Bard แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ ว่า บีเดิลยอดกวี (หลายคนคงคิดอยู่ว่า ง่ายตรงไหน เหมือนต้องแปลไทยเป็นไทยอีก 555+) บีเดิลจึงเป็นผู้เขียนตำนานนี้ขึ้นมา (คล้ายๆ นิทานอีสปอะ)
::: Reference ^^ :::



ขอบคุณเพื่อนๆ และผู้ชมทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านบล็อกนี้นะคับ ^^

----------------------------------------

31 ความคิดเห็น:

  1. ชอบโลกแห่งเวทย์มนต์ซะจริงนะ -*-
    คราวที่แล้วก็ แฮร์รี่ ฮ่าๆๆ
    หาคาถามาเสกให้เราฉลาดขึ้นหน่อยเดะ

    ตอบลบ
  2. อันที่จริง เรายังเขียนไม่เสร็จเลย 555+ แต่ก็ขอบคุณนะที่มาเมนท์ อิอิ

    ตอบลบ
  3. อยากอ่านเล่มนี้จัง

    แต่ยังไม่มีตังค์ซื้อ

    555

    ตอบลบ
  4. โว้ววว

    แฮร์รี่ ขึ้นสมอง จริงๆ

    แต่ของเค้าดีจริงแก ยอมรับ

    เล่มนี้ ไม่อยากซื้ออะแก เอามายืมอ่านหน่อยดิ ฮิฮิ

    ตอบลบ
  5. ช้านก็อยากอ่านอ่ะ

    รัก Harry เหมือนกาน

    แต่รักหนังสือมากกว่าหนัง

    เราปรับปรุง Nightmare อันเดิม
    เป็น blog My Favorite Stuff : The Nightmare Before Christmas
    ช่วยไปเม้นให้หน่อยน่ะ
    อย่าเบื่อซะก่อน ช่วยอ่านด้วย
    Thanks ล่วงหน้า

    ตอบลบ
  6. ว้าววว
    แบงค์เขียนอ่านแล้วสนุกมากกกกกกกกกกกกกก อ่ะ
    เราไม่เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อนเลย สงสัยเพราะยังไม่ได้อ่านแฮร์รี่เล่ม7
    เราเพิ่งรู้ประวัติของเจ้าของ 3 อย่างนั้นก้อตอนนี้แหละ
    ล้ำลึกจริงๆ อืมอืม

    ตอบลบ
  7. เห็นแล้ว น่าอ่านจัง
    แต่รอดูหนังดีก่า มันยาวเกิ๊น 55555

    ตอบลบ
  8. รูปที่เอามาลงสวยมากอ่า




    ชอบๆ ^^

    ตอบลบ
  9. อยากไดเล่มสีน้ำตาลอะ สวยจัง
    เออ เล่มสีฟ้าอะ ยังไม่ได้อ่านเลย
    เห็นว่าขายดีมากมายหนิ
    วางขายที่ร้านนี่ทั้งชั้นเลย
    แต่เราไมได้ซื้อ เพราะยังไม่มีคนมาบอกว่าสนุกอ่า

    ตอบลบ
  10. ชอบเล่มหัวกะโหลกนั่นมากเลยอ่ะ
    ยังไม่ได้แฮร์รี่สองเล่มสุดท้ายเลย
    จนป่านนี้แล้ว --'
    เลยยังไม่เห็นซักอย่างที่แบงค์พูดมาเลย
    ต้องไปหามาอ่านซะแล้ว

    ตอบลบ
  11. อ่านเรื่องย่อแล้วก็ไม่ต้องอ่านเล่มจิงแล้วล่ะสิ
    อิอิ
    (ป่าวหรอกที่จิงขี้เกียจซื้อ อาวมายืมซ้าาาา...:P)

    ท่าทางจะสนุกๆๆ

    ตอบลบ
  12. อ่านจนจบแล้วยังไม่รุ้เลยบีเดิลคือใคร - -

    ปล. อ่านข้ามสีเขียวแล้วอ่านได้จิงๆด้วยแหะ สุดยอดจิงๆ 55+

    ตอบลบ
  13. มีจ้า
    เค้ายังพิมออกมาอยู่
    หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป

    ตอบลบ
  14. อ๋อ ... เคยได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน

    ได้ยินมาว่าตอนแรกป้า เจ.เค. ไม่ได้ทำเล่มนี้เพื่อตั้งใจตีพิมพ์ แต่แบบ...เขียนขึ้น+วาดภาพประกอบเองทั้งหมดเพื่อเปงของขวัญให้กับคนที่ช่วยเค้าเขียนแฮรี่จนจบ รู้สึกจะมี 6 คนมั้ง พอแฟน ๆ ของแฮรี่อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายรู้เรื่องนี้เข้าก็วีนกันว่าอยากได้บ้าง ป้าเจ. เค. เลยสนองให้ หนังสือซีรี่ส์นี้จึงได้ออกสู่สาธารณะ

    อืม .. น่าสนใจ ๆ

    ตอบลบ
  15. ถ้าไปซื้อที่ asia book ตอนที่ twightlight เข้า
    จะสามารถเอาบิลไปเเลกเเฟ้มของ twightlight ได้เเหละ

    เเต่ตอนนี้มะรู้อะ

    เผอิญไปซื้อเล่มนี้ กับพี่คนนึงที่เค้า ไปเเข่งเเฟนพันธ์เเท้เเฮรี่ ได้ที่ 2
    555
    เเล้วตอนนี้พี่เค้ากำลังจะกลายเป็นเเฟนพันธ์เเท้ twightlight ซะเเล้ว

    ตอบลบ
  16. confirm ใครไม่อ่านไปอ่านซะ ทั้งแฮร์รี่และนิทาน ไม่อ่านนี่ไม่ควรเกิดมายุคนี้จริงๆ

    ตอบลบ
  17. ดีจ้า แบงค์50

    แฮร์รี่ แฮร์รี่

    ตอบลบ
  18. เราเคยชอบแฮร์รี่นะ ยำว่า"เคย" แต่ตอนนี้เหรอ...ไม่อะ
    แต่ถ้าอ่านจบแล้วก็ยื้มอ่านด้วยน้า ก๊ากๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  19. แบงค์ แฮรรี่อีกแล้วเหรอ
    ยังไงเถอะก็คนมันชอบนี่นา
    ไช่ป่าว?

    ตอบลบ
  20. .......
    .........
    ........... Art มากๆๆๆ
    อยากเห็นของจริงอะ

    ตอบลบ
  21. ชอบเหมือนกันเลย
    อ่านทุกเล่มเล่มละหลายรอบ
    คนเขียนเค้าเจ๋งจริง
    แต่เราว่าเล่มสุดท้ายมันจบแปลกๆไปนิดน่ะ
    แต่ก็ยังถือว่าโอ

    ตอบลบ
  22. อยากอ่านอ้ะ
    แต่ไม่มีตังค์ซื้อ

    สงเคราะห์หน่อย
    ฮ่าๆๆ


    เพลงโปรดมาจากละครโปรดของเราด้วย!!!

    ตอบลบ
  23. อยากอ่านอีกอะ

    ชอบเหมือนกาน
    แฮรี่ พอตเตอร์

    ตอบลบ
  24. ชอบเหมือนกัน
    หนังสือของเค้า ปกดูดี น่าอ่าน ทั้งนั้นเลยเนอะ

    ตอบลบ
  25. อยากจะบอกว่า
    เล่ม7ยังอ่านไม่จบเลย
    เลยไม่รุ้ว่ามันเป็นยังไงต่อไป
    แต่มาอ่านก้เพิ่งรู้นะเนี่ย
    ประวัติของไอสามอย่างนี้เนี่ย

    เขียนดีนะแบงค์
    ชอบๆ

    ตอบลบ
  26. สาวกตัวจริงเลยนะเนี่ย

    ตอบลบ
  27. ห้าสิบ ... ไม่น่าเชื่อเลยว่าจนบัดนี้แกยังคิดว่าเราเป็นคนเงียบๆอยู่
    แกไม่รู้เหรอว่าถ้าเริ่มเมื่อไหร่ชั้นจะพูดไม่หยุด
    เดี๋ยวแม่จับมาทำเครือข่ายครอบครัวซะอีกคนหรอก เหอๆๆ

    เป็นอะไรดีนะ... ไปคิดดูก่อน เพราะคู่รหัสเธอก็เป็นลูกสาวคนเล็กเราอยู่แล้วนิ อิอิอิ

    แกก็ยังชอบอะไรที่แฮร์รี่ๆอยู่ดีอ่ะนะ
    ไอเครื่องรางยมทูตนั่นดูๆไป กุรุกุรุ เป็นบ้า หุๆๆ

    ตอบลบ
  28. เฮ้...ชอบเรื่องของเครื่องรางยมทูตเหมือนกันอ่ะ...

    ชอบไสยดำค่ะ ฮะๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  29. เราก้อชอบ แฮร์รี่เหมือนกัน

    ..สนุกดีนะ,

    ตอบลบ
  30. เราชอบมากๆ เข้าโรงแล้วไปเลี้ยงอีกนะ

    55555 เพี้ยงขอให้ตรงตุลาเถอะ ฮี่ๆๆๆๆ

    ตอบลบ